ลาออกแบบหน้ามึน
วันนี้เป็นวันที่เราเข้าไปยื่นใบลาออกกับเจ้านายแบบกระทันหัน จึงทำให้เจ้านายไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถามว่าเราผิดไหม ใช่ เราผิด แต่ผมไม่สามารถรู้อนาคตได้ว่าผมจะได้งานไหม และได้เมื่อไหร่ (นี่ไม่ได้แก้ตัวนะ) เพราะผมก็พยายามหางานที่อื่นมาแรมปีแล้ว เพราะที่นี่ ไม่ไหวจริงๆ เค้าบอกว่าเราทำตัวเหลวไหล ในมุมมองของผู้ประกอบการ อันนี้เรายอมรับ เราอาจจะมีนอกลู่นอกทางบ้าง ลาบ่อยบ้าง แต่เรากล้ายืนยันเลยว่า ทุกอย่างที่ทำไป เกิดจากการทำงานล้วนๆ เช่น เจ้านายถามว่า ทำไมคุณถึงไม่สบายบ่อยจัง เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะเราเคยบอกไปแล้วว่าห้องที่เราทำงานอยู่นั้น มันไม่มีอากาศที่บริสุทธิ์ ทั้งห้องที่อับ เชื้อราที่มากับฝน ไหนจะสารเคมีที่ต้องนั่งดมทุกวัน เราเลยจำเป็นที่จะต้องไม่สบายเนื่องจากที่ทำงานทำให้เราป่วย แล้วก็อีกอย่าง เราทำงานตั้งแต่เช้าแบบ Non-stop 1 ชั่วโมงก่อนเลิกงาน บอกให้เราไปถ่ายรูปเมนู ซึ่งเปลี่ยนทุกๆวัน ถ่ายทุกๆวัน มันทำให้จิตใจเราท้อนะ และเวลาเรียกเราเข้าไปสั่งงาน เกลียดมากเลยคือไม่เตรียมอะไรไว้เลย บางทีก็ไม่รู้จะสั่งอะไร ไม่รู้จะทำอะไรดี บางทีก็คิดว่า เอ้ หรือกลัวจ้างเรามาแล้วใช้งานเราไม่คุ้มเงินเดือนนะ งานที่สั่งบางทีก็ไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ ด้วยความอีโก้สูง คำพูดอยู่บนฟ้า เจ้านายถูกเสมอ ไม่ให้เกียรติลูกน้อง เอาแต่ใจ เรื่องนี้ใหญ่เลย มันเลยทำให้ที่ทำงานหลายๆคน ร้องไห้เพราะทำงานที่นี่มาแล้วหลายต่อหลายคน แต่พี่ๆ บางทีเค้าก็ไม่มีโอกาสที่จะออกมา ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างด้วยแล่ะ เลยทำให้พี่ๆ ไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นได้ ซึ่งเราก็คิดมาโดยตลอดว่า ขนาดเจ้านายยังไม่ให้เกียรติเรา เราจะอยู่ให้เค้าดูถูกไปทำไม เราต้องมองเห็นคุณค่าในตัวเองสิ
0 notes
พองานรีบ ปัญหาก็มา คุยกันแบบไม่รู้เรื่อง แล้วสั่งเราผลิต ซึ่งสินค้าที่จะจำหน่ายนี้ ทางบริษัทได้รับทราบล่วงหน้าเป็นเวลานานแล้วว่าภาครัฐจะไม่ให้ขาย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร จนกระทั่งถึงเดือนสุดท้าย Deadline หัวหน้าเลยเร่งงานภายในอาทิตย์เดียว เอาทั้งสปอต หาสถานีวิทยุ ตกลงราคา PP Board ใบปลิว เปลี่ยนวันละ 2-3 รอบ ไม่แน่นอนซักที พอสั่งผลิต อันนี้ความผิดเราเลยว่าส่งไปผิดไฟล์ แล้วทางเจ้านายคุยกันว่าจะทำใบปลิว 2 หน้า แต่ไม่ได้แจ้งเรา เราก็ส่งไปหน้าเดียว ปัญหาเลยเกิดแต่เค้าก็แก้ปัญหาได้ (โดยที่ผมไม่มีส่วรเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา) เราก็รู้สึกผิดว่าเราทำงานพลาด แต่เกตุการณ์ในครั้งนี้ น่าจะทำให้คณะกรรมการผู้บริหารปรับเปลี่ยนระบบการทำงานใหม่ได้แล้ว เปิดบริษัทมา 10 กว่าปี ระบบงานก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งเอาใหญ่ ยิ่งได้ใจ ....
1 note
·
View note
ใช่ครับ ผมเป็นกราฟิก แต่งานที่ผมทำในแต่ละวัน นอกจากจะเอาเปรียบโดยการทำงานให้มากกว่า 1 บริษัทแล้ว งานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละวันยังเลยสะโครบของงานกราฟิกไปเยอะเลย เมื่อไหร่โควิทจะหมดไป อยากหางานใหม่แล้ว งานหนักไม่กลัวครับ กลัวค่าตอบแทนไม่สมเหตุสมผล
0 notes
ว่าด้วยเรื่องการทำงาน Over Time กับบริษัทที่เราทำงานอยู่
ต้องบอกก่อนว่า ปกติผมทำงานให้กับทุกบริษัทที่เจ้านายเป็นเจ้าของอยู่
ทั้งจดทะเบียนและไม่จดทะเบียน นับแล้วก็ราวๆ 4-6 บริษัท แต่ค่าตอบแทนที่ได้
ก็แค่บริษัทเดียว แล้วยังได้น้อยอีกด้วย จ้างถูก ใช้ให้มันคุ้ม น่าจะเป็นทัศนคติของผู้ประกอบการ ส่วนเรื่อง Over Time นั้น มีบ่อยมาก แต่ไม่มีค่าเสียเวลาให้เลย
เช่นเดียวกัน วันนี้ ต้องมาถ่ายงานเลี้ยงที่ร้านอาหาร ก็นะ เหมือนทนๆทำไปอะ จากที่ดูลักษณะการบริการแล้ว ไม่น่าจะรอด ถ้าไม่รีบปรับปรุงการบริการ หลายคนอาจจะถามว่า อ่าว ไม่ชอบแล้วทำไมไม่ลาออก คือตอนนี้มีแผนจะออก แต่ยังไม่ได้งานใหม่ ถ้าได้งานใหม่เมื่อไหร่ ไปแน่นอน งานหนักผมไม่กลัว ผมสู้ ผมชอบที่มีอะไรทำในระหว่างวัน แต่ค่าตอบแทนก็ต้องสมเหตุสมผลด้วย สวัสดี.
0 notes
เป็นอีกวันที่ตื่นสาย 8 โมงครึ่ง มาทำงานสาย ฝุ่นก็เยอะ ไม่กล้าออกไปไหน กินทุกวันแล้ะก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆเนี่ย งานก็ จั๊กอะไรนักหนา วันนี้พี่ที่ทำงานร้องไห้ เพราะภาระงานที่เยอะเกินไป เราสงสารมาก เพราะเราเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน แต่ทำไมเจ้านายเค้าไม่เคยเข้าใจลูกน้องเลย ว่าลูกน้องรู้สึกยังไง
0 notes
เช้าของวันนี้ช่างก็มาทำไฟต่อแต่เช้า อย่างที่เคยนัดกัน เราก็เดินไปเอากุญแจมาเปิดบูทให้ช่าง เชฟก็บอกว่า เนี่ย บอกเค้าทำความสะอาดให้ด้วยนะ เพราะตอนเจาะ ฝุ่นมันเยอะแล้วก็พื้นหินอ่อนตรงที่ทำอาหาร บอกเค้าอย่าใส่รองเท้าเหยียบนะ จากนั้นเราก็เดินไปซื้อกาแฟ แล้วมานั่งเฝ้าช่างทำงาน จนเที่ยง งานเสจ เราไปทานข้าว บ่ายมาเราก็มานั่งรีทัชสายไฟ จน 4 โมงเย็น เราก็ได้นับงานมาอีก 4 อย่าง +1 อย่าง คือไปถ่ายรูปเมนูใหม่ อะ OT อีกละ เราก็ไป ถ่ายๆ แล้วรีบกลับ เหนื่อยแบบนี้ เงินเดือนควรได้เท่าไหร่ ถามจริง...
0 notes
ให้ทายว่าผมทำอาชีพอะไร
0 notes
ทำวิดีโอ เพื่อพัฒนาศักยภาพสำหรับการย้ายงานใหม่
0 notes
แม่งวันนี้เป็นใันทำงานวันสุดท้ายของปี 2019 แทนที่จะได้ relax แม่งงานท่วมหัวเลย
0 notes
แค่เห็นสายไฟที่ต้องรีทัช ก็ท้อแล้วอะ
0 notes
บริษัทเรา ต้องคอยจัยกระดาษ ไม่งั้นติด
0 notes
ไม่เป็นเราก็ไม่เข้าใจไง
วันนี้เรื่องมีอยู่ว่า สองวันที่แล้ว เจ้านายเรียกเราไปถาม ว่า���จ้านายมีความต้องการที่จะทำ live Facebook เราก็คิดในใจตอนนั้น ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอก จะเอากิโลเลยหรอวะ เค้าชอบใช้ประโยคที่ว่า กราฟิกคนก่อนเคยทำไว้ดี ผมก็ไม่รู้เค้าทำยังไง แต่สมัยนี้เทคโนโลยีมันไปไกลแล้ว น่าจะไม่ยาก แล้วถามเราว่าเราทำได้ไหม เราก็บอกทำได้ครับ ถ้ามีอุปกรณ์ เราเลยบอกว่าใช้อะไรบ้าง ในสิ่งที่เราจะสื่อคืออุปกรณ์ที่มีคุณภาพ แต่เค้าก็สั่งของจากจีน แบบราคาหลักร้อยมาให้เรา เราก็อะ มีให้เราแค่ไหน เราก็ทำได้แค่นั้น และถ้ามองในระยะยาว เราต้องมาทำงานตอนกลางคืนด้วย เพื่อทำการ live Facebook ขณะที่เชฟทำอาหาร ตอนนั้นยอมรับว่าเกิดความไม่พอใจ เลยมาเล่าให้พี่ที่ทำงานฟัง พี่คนนี้คือคุยกันทุกเรื่อง เราก็เล่าว่าเจ้านายต้องการอะไร พี่เค้าพูดว่าอะไรรู้ปะ บอกให้เราใจเย็น ทำไปเหอะ งานสมัยนี้มันหายาก พูดในเชิงแบบ เค้าไม่ได้เข้าใจเราว่าภาระหน้าที่ที่เราต้องทำในแต่ละวัน มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ จนกระทั่ง มาวันนี้เจ้านายเรียกพี่คนนี้เข้าไปคุย เพื่อที่จะให้พี่คนนี้เป็นพิธีกรขณะ live เท่านั้นแล่ะ มาบ่นให้เราฟังใหญ่เลย เราก็เลยยิ้มแห้ง ขำเบาเบาอยู่ใมนใจ เหอะ เป็นไงล่ะ บอกให้เรา calm down พอตัวเจอบ้างก็บ่นเหมือนกันล่ะวะ พี่แกก็ถามว่า แสดงว่าตอนกลางคืนต้องมาทำงานใช่ไหม แล้วถามเราว่าต้องทำบ่อยแค่ไหน เราเลยบอกไปว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ���านาย พี่คนนี้ก็หนักใจอย่างเห็นได้ชัดเลย อ่อ แล้วขอบอกด้วยนะว่า งานที่ได้เพิ่มมานี่ ไม่มีค่าคอม ไม่มี ค่า Over time นะครับ ทำเยอะแค่ไหน ก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม แว่วๆว่าปีนี้ โบนัสจะไม่ได้กันด้วย เป็นไงล่ะ เจริญจังเลย เฮ้
0 notes
ข้อเท็จจริง
วันที่เจ้านายถามว่า “ทำไมคุณป่วยบ่อย ลาบ่อยจังเลย” เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ให้เค้าเข้าใจ แต่เค้าก็บอกว่าเค้าเข้าใจนะ คือโอเค ผิดที่ตัวเราเองแล่ะ ที่ร่างกายไม่แข็งแรง เราเลยป่วยบ่อย ลาบ่อย แต่เราก็ไม่ได้เกินเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดไว้นะ เค้าใช้คำว่า “ลาได้ ไม่เป็นไรถ้าเป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริง มันก็ไม่สมควร” คำพูดนี้ควรพูดหรอ นี่คือในใจเราคิดอยู่ตอนนั้น ต่อมาบอกเราว่า การที่เราทำแบบนี้บ่อยๆ คือทางบริษัทเราก็อยู่แบบ เค้าใช้คำว่าอะไรนะ “ อะลุ่มอลวย ” (ในใจตอนนั้น หรอวะ) เค้าใช้คำพูดที่จะตักเตือกในเรื่องการลาให้ทางเค้าดูดี แล้วที่แทงใจเรา จนทำให้เรากำหมัดเลย คือประโยคที่ว่า “ก็ถ้าเวลาป่วย ถ้ามันไหว ทนได้ ก็ให้มา แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ลาได้ ไม่เป็นไร” อะไรวะ นี่หรือคือความคิดของเจ้าของธุรกิจระดับ หลายร้อยล้าน ตบท้ายด้วยคำว่า ออฟฟิสเราอยู่กันแค่นี้ ถ้าเกิดเราสามารถทำได้ แล้วคนอื่นก็อาจจะคิดว่า อาว เราทำได้ คนอื่นอาจจะทำบ้าง สรุปทั้งหมดคือ เค้ามองในแง่ที่ว่าเค้าจะได้ผลประโยชน์อย่างเดียว เค้าไม่สนว่าลูกจ้างจะเจออะไร หรือรู้สึกอะไรอยู่ มีเพียงคำถามเดียว ผิดหรอวะ ที่เราป่วยบ่อย ฝากไว้ให้คิสสสสส
0 notes
ว่าด้วยความงาน งาน งาน แล้วก็งาน
สั่งงานเป็นกอง จะเอาภายใน 4 ชม. บ้าบอ
พอเราบอกยังไม่เสจ ก็ให้คนอื่นมาช่วย เพื่อที่จะสั่งงานอื่นต่อ เฮ้ย มันต้องขนาดนี้ไหมวะ
0 notes