Tumgik
ro-soso · 1 year
Text
สวัสดีปีใหม่ 2566 ปีที่เข้าใกล้อายุ 30 จริงจัง
ปีที่ผ่านมาชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเลย ได้พูดในสิ่งที่อยากพูด ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ มันดีมาก ไม่ติดค้างอะไรทั้งนั้น ได้เรียนรู้อะไรเยอะ และก็ใช้เงินเยอะเหมือนกัน 5555
• เรียนทุกอย่างที่อยากเรียน เสาร์อาทิตย์ไม่เคยว่างเลยมาครึ่งปีได้ ขยันมาก ไม่อยากเชื่อตัวเอง
• ย้ายงานใหม่ งานที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ อย่างเอเจนซี่ ก็ปรับตัวกันไป ปวดหัววันเว้นวัน มีเรื่องที่เราไม่รู้อีกเยอะแต่ก็ต้องหาทางหาคำตอบด้วยตัวเอง
• โควิดรอบสอง ไม่สนุกเลย รู้สึกเหมือนสมองช้าไปหมด ขี้ลืมขึ้นด้วย ฮืออ
• ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย วินัยหายหมด น้ำหนักเลยขึ้นแบบ 3-4 โล เอาลงไม่ได้สักที 🥹
• ได้กลับมาดูคอนเสิร์ตอีกครั้งในรอบหลายปี ดีใจมาก ชอบบรรยากาศ แสงสีเสียง ตื่นเต้น และก็มีความสุขมาก
• อยากถูกหวยรางวัลที่ 1 บ้างจัง ขอให้เป็นวันของเรา
ชีวิตเรื่อยเปื่อยตามประสามมนุษย์เงินเดือน มีเรื่องน่ารำคาญใจบ้าง แต่รวม ๆ ก็มีความสุขดี
4 notes · View notes
ro-soso · 2 years
Text
หวัดดี 2565
กลับมาพักผ่อนที่บ้านตั้งแต่วันที่ 29 ยาวไปถึงวันที่ 3 เลย ไม่กลับบ้านมาครึ่งปีได้ ตายายแก่ลงอย่างเห็นได้ชัด พ่อแม่ก็เริ่มขี้ลืมนิดหน่อย น่าใจหาย จะพยายามใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่ กินข้าวมื้อเย็นรวมกัน นั่งดูบอลกับตาบ้าง คุยกับยายเรื่องโควิด บ่นเรื่องหวยกันด้วย ส่วนเช้าวันที่ 1 ครอบครัวลุงมาเยี่ยมก็คุยกันสนุกดี ไม่มีใครซักถามอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนใจ
เป็นการเริ่มต้นปีที่ไม่เลว อากาศเย็นสบาย กินอิ่ม นอนหลับครบ 8 ชม. ดูหนังเรื่องสองเรื่อง เล่นเกมบ้าง นอกเหนือจากการพักผ่อนก็ยังได้ทำตาม checklist เล็กๆน้อยๆ
☑️ วิ่งๆเดินๆทางไกลกับพ่อ (11 km)
☑️ แลกแต้มบัตรเครดิตส่งท้ายปี
☑️ หัดขี่รถซาเล้งครั้งแรก
☑️ ซื้อกล่อง และจัดห้องนอนแม่ (90%)
☑️ ดูวิธีใช้ปั๊มน้ำที่สวนกล้วย
☑️ หัดถอยรถเข้าซอง / หัดขับรถถนนใหญ่
☑️ ล้างจมูกเป็นกิจวัตร
⚠️ งดน้ำหวาน ยังทำไม่ได้
โดยรวมคือดี ได้ใช้ชีวิตเอื่อยๆเรื่อยๆแบบไม่เร่งรีบ ได้คุยกับครอบครัว เล่นกับหมา ให้อาหารปลา วิ่งหนีมดคันไฟ ได้ปลูกต้นไม้ต้นนึง(ลืมชื่อ) อันที่จริงอยากให้มีหยุดยาวแบบนี้ทุกเดือนเลย
0 notes
ro-soso · 2 years
Text
Tumblr media
คิดถึงอาหารช่วงนั้นเหมือนกันนะ
1 note · View note
ro-soso · 4 years
Text
27 ปีนี้นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นก็มีเรื่องสายที่ไม่ปกติ สั้นข้างเอียงข้างอย่างละนิดหน่อย จ๋อยเลย จากคนที่สายตาปกติมาทั้งชีวิตอะ ไหนจะเรื่องผมร่วงที่เกินเยียวยา ทำใจอะนับถอยหลัง เตรียมตัดสกินเฮดตามพ่อเลย แล้วไหนจะริ้วรอย กระ ที่อยู่ๆมาไงก็ไม่รู้ งงไปหมด ;-;
เป็นการบันทึกสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปตามการใช้งานจริงๆ 55555555
0 notes
ro-soso · 4 years
Text
ปกติจะเป็นคนปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น ถ้ามีไรให้(ต้อง)ทำแล้วไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะเออๆออๆทำไป (เต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง)
แต่วันนี้พบว่าตัวเองปฏิเสธเป็นว่ะ แล้วปฏิเสธไวมากด้วยกับเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่การใช้แรงงานด้วย นั่นคือการที่มีคนมาเปิดเพลง(ที่ไม่ถูกจริต)แล้วให้ฟังจนจบงี้.. ต้องขอบายจริงๆ 55555555 เข้าใจได้นะ ถ้าไปในที่สาธารณะแล้วมีเพลงแบบนั้นเปิด ยังไงก็ไม่ได้โฟกัสเพลงอย่างเดียว ทำโน่นทำนี่ด้วย เออนั่นแหละ พอเป็นเรื่องเพลงก็คือใจแคบเว่อร์ 55555 เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน
0 notes
ro-soso · 4 years
Text
ทำงานเข้าปีที่ 4
ปริมาณงาน ความรับผิดชอบเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะไม่ได้ทำงานเก่งระดับมืออาชีพ แต่ไม่ค่อยท้อแท้แล้ว แม้บรรยากาศ/ระบบการทำงานจะเดิมๆแต่ทัศนคติดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น ยอมรับความจริง มีอะไรก็เคลียร์ ลดการใช้อารมณ์เพราะมองไม่เห็นประโยชน์จากมันเท่าไหร่ ไม่ได้รักการเอาชนะประชดประชันมันเสียพลังงาน คนทั้งโลกไม่ได้รับฟังเราได้หมด เราไม่มีทางไปควบคุมอะไรดั่งใจทุกอย่าง ใครไม่สนใจในสิ่งที่เราพูดหรือทำ นั่นเป็นเพราะเค้าอาจจะไม่ใช่ target ก็ไม่ต้องไปเสียเวลามาก สุขภาพจิตเลยค่อนข้างโอเค ดีใจที่ตัวเอง(ในวัย 26 ปี)เป็นแบบนี้นะ
คิดถึงตอนวิ่ง 7 ก.ม.ได้ครั้งแรก ตอนโค้งสุดท้ายในสวมลุมฯ วิ่งเข้ารอบที่ 3 แล้ว คนวิ่งน้อยลง ทิ้งห่างกันมาก ตอนนั้นทั้งเมื่อยน่อง ร้อน และท้อแท้ อยากหยุดแล้วแต่ก็กลัวจะเคยตัว ระหว่างที่กำลังตบตีกับตัวเอง สังเกตเห็นพี่ขาแรงคนนึงวิ่งแซงขึ้นไปอย่างช้าๆ ก้าวต่อก้าว เนื้อตัวผมเปียกไปด้วยเหงื่อ มีเสียงหอบดังนิดหน่อย ท่าวิ่งไม่ได้ทะมัดทะแมงนัก ก้าวนำขึ้นไปเกือบช่วงตัว วินาทีนั้นก็ฉุกคิดได้ว่าคนที่มาวิ่งทางไกล มันไม่มีใครไม่เจ็บ ไม่มีมีใครไม่เหนื่อยหรอก เค้ามีความรู้สึกกันหมดเพราะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะเรียนรู้จากความเจ็บปวด จัดการกับมันยังไง ประคับประคองตัวเองให้ถึงจุดหมายยังไงต่างหาก นั่นแหละคือสิ่งที่น่าสนใจ สุดท้ายเลยมีกำลังใจจนวิ่งครบได้ เกินกว่า 5 km อย่างที่ตั้งใจ ขอบคุณมากนะพี่ คืนนั้นรู้สึกภูมิใจเล็กๆ มีกำลังใจในการใช้ชีวิตขึ้นอีกนิด 5555
กินอิ่ม นอนหลับ ปวดขี้มีส้วมให้เข้าก็โอเคมากๆละ จริงๆ
1 note · View note
ro-soso · 6 years
Text
1/9
ยังไงก็ต้องปรับปรุงตัวเองต่อไป
0 notes
ro-soso · 6 years
Text
“You must learn to let go. Release the stress. You were never in control anyway.”
— Steve Maraboli   (via goodreadss)
12K notes · View notes
ro-soso · 6 years
Photo
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
Workout For Daily Life
440K notes · View notes
ro-soso · 6 years
Photo
Tumblr media Tumblr media
ลองตื่นมาวิ่งตอนเช้าก่อนไปทำงาน.. พบว่าไม่เวิค 55555 โคตรล้าและง่วง กลับไปวิ่งตอนเย็นเหมือนเดิมเถอะ บัย
0 notes
ro-soso · 6 years
Text
สวัสดีวันจันทร์
มันไม่ได้ทรมานเหมือนปีก่อนแล้ว จะเรียกว่าการปรับตัวก็ได้ ก็แค่ตื่นมาทำสิ่งที่ควรทำ ไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้นมันแค่การทำงานน่ะแก อย่าไปคิดอะไรมาก
Tumblr media
0 notes
ro-soso · 6 years
Photo
Tumblr media
1K notes · View notes
ro-soso · 6 years
Photo
Tumblr media
Somewhere above the clouds  ☁️ ☁️
1K notes · View notes
ro-soso · 6 years
Text
ไม่มีผลงาน
ว่าด้วยความโง่และไม่พยายามของตัวเองที่เราไม่คิดจะเปลี่ยนหรือพัฒนาอะไร มันเลยติดตัวมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทำงาน มาตาสว่างก็ตอนที่ทำงานครบปีมีการประเมินแล้วผลออกมาคือไม่ได้ปรับเงินเดือนเพราะไม่มีผลงาน ไม่เห็นถึงความกระตือรือร้น ไม่เห็นศักยภาพ ไม่เห็นความตั้งใจ ไม่...ฯลฯ
ประมาณปี 2
"ตอบข้อสอบเหมือนไม่เคยเรียนมาเลยอะ ไม่เข้าใจอะไรหรอ งงนะ"
ปี 4
"พูดตรงๆทำงานแบบนี้ไม่รู้จะให้คะแนนยังไงเลยนะถ้าเทียบกับคนอื่นอะนะ"
ทำงานครบ 1 ปี
"Performance คุณไม่โอเค ไม่เห็นผลงานเลยอ่ะ ตอนแรกเหมือนจะดีสุดท้ายก็แผ่ว เหมือนกราฟดิ่งลงอย่างเดียว"
"..เพราะงั้นตอนนี้ยังไม่ปรับเงินให้นะ"
คงต้องทำไรสักอย่าง ไม่งั้นก็เป็นไอ่คนไม่เอาไหนตลอด พูดจริงๆระหว่างพิมพ์คือน้ำตาไหลตลอด 5555
0 notes
ro-soso · 6 years
Quote
แค่อยากทำให้รสนิยมมันดี ไม่ต้องมีตำแหน่งก็ได้
นึกได้ตอนนั่งส้วม
0 notes
ro-soso · 7 years
Photo
Tumblr media
915 notes · View notes
ro-soso · 7 years
Photo
Tumblr media
Eel’s Nest | Simon Storey / Anonymous Projects Location: Echo Park, Los Angeles, USA | Source: HOME NZ | Photograph: Simon Devitt
550 notes · View notes