Tumgik
#mwch5
amrs-posts · 3 years
Text
عايش ما بين الحزن وبُعاد مكتوب .. لكن لا جرح قدر يقتلني ولا يشيلني ذنوب.
#الكينج
#SoundCloud
https://soundcloud.app.goo.gl/mWch5
Tumblr media
14 notes · View notes
rritsu · 9 years
Text
Mirkwood, The another story (The hobbit fanfiction) [Chapter 5]
    “นั่นใครหรือ?"
    “กษัตริย์ธรันดูอิลแห่งเมิร์ควูดไงล่ะ"
    “ข้าก็เพิ่งเห็นกษัตริย์เมิร์ควูดครั้งแรก เขาช่างดู...งดงาม?"
    “เจ้าจะพูดว่าสง่างามรึเปล่า? แต่ข้าคิดว่าใช้คำนั้นก็คงไม่ผิดเท่าไหร่หรอก"
    เหล่าข้ารับใช้แห่งริเวนเดลพากันพูดซุบซิบอยู่มุมห้อง ซึ่งแน่นอนว่าคำพูดเหล่านั้นย่อมไม่พ้นหูกษัตริย์เอล์ฟ อะไรก็ไม่ทำให้เขาตะขิดตะขวงใจได้เท่ากับการมีคนบอกว่าเขานั้น ‘งดงาม'
    “ข้าคิดว่าพวกเขาคงหมายถึงงดงามราวกับภาพวาดน่ะ"
    เอลรอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะร่วนให้กับสีหน้าของผู้เป็นสหาย ดวงตาสีฟ้าซีดเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย เขาไม่ชอบงานสังคม ไม่ชอบสถานที่ที่มีผู้คนมารวมตัวกัน หากไม่ใช่เพราะเอลรอนด์เป็นคนเชิญ เขาคงไม่มีทางมาเหยียบงานเลี้ยงแบบนี้แน่
    “เลโกลัสล่ะ?"
    “คงไปเดินสำรวจแถวนี้"
    “แทบไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะยอมอยู่ห่างจากลูก"
    “ข้าไม่ใช่เจ้า เอลรอนด์"
    กษัตริย์เอล์ฟตอกกลับสายตาล้อเลียนของสหาย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปสู่ลานกว้างที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันถูกห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา ลานนี้ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน มีบรรเลงเพลงทำนองเสนาะหู ทั้งหมดนี้เพื่อฉลองวันเกิดให้กับอาร์เวน บุตรสาวคนสุดท้องของเอลรอนด์
    แขกที่ได้รับเชิญในงานนี้มาจากทั้งลอธลอริเอนและเมิร์ควูด เป็นครั้งหนึ่งในรอบหลายร้อยปีที่ผู้ปกครองอาณาจักรของเอล์ฟทั้งสามจะได้มาพบปะกัน เลดี้กาลาเดรียลและลอร์ดเคเลบอร์นก็อวยพรวันเกิดให้หลานสาวเช่นกัน
    “ข้าจะไปตามเลโกลัส” กษัตริย์เอล์ฟเอ่ยขึ้นก่อนจะผละออกไปเงียบๆ
    เลโกลัส เจ้าชายตัวน้อยกำลังตื่นตาตื่นใจกับทรรศนียภาพรอบๆ ที่นี่ไม่เหมือนเมิร์ควูด รายล้อมไปด้วยขุนเขาและแม่น้ำ เท้าเล็กๆเดินซุกซนลงไปตามบันได จนมาหยุดที่สวนเล็กๆ ดวงตากลมโตสีฟ้าใสมองไปรอบๆ จนสายตาไปหยุดที่สตรีงดงามนางหนึ่ง
    “สายัณห์สวัสดิ์ หนุ่มน้อย เจ้าหลงทางหรือ"
    “เปล่านะ ท่านพ่อบอกว่าให้ข้าออกมาเดินเล่นได้”
    “เจ้าชื่ออะไร เด็กน้อย"
    “เลโกลัส กรีนลีฟ ข้ามาจากเมิร์ควูด"
    เลโกลัสตอบเสียงเจื้อยแจ้ว กาลาเดรียลยิ้มให้กับท่าทางไร้เดียงสาของเด็กน้อย ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกัน
    “ข้าคิดว่าเจ้าออกมาเดินเล่นนานแล้ว พ่อเจ้าคงเป็นห่วง"
    “ท่านรู้จักพ่อข้าเหรอ” เด็กน้อยเอียงคอ
    “ข้าไม่รู้ว่าควรจะใช้คำว่ารู้จักไหม เอาเป็นว่าข้าได้ยินชื่อเสียงพ่อเจ้ามาพอสมควร"
    กษัตริย์เอล์ฟปรากฏตัวขึ้นก่อนที่ท่านหญิงจะได้เอ่ยอะไรต่อ ดวงตาสีฟ้าซีดจ้องมองนางอย่างไม่วางใจ นางหยั่งรู้อนาคต อนาคตที่ไม่ควรมีผู้ใดล่วงรู้
    “เลโกลัส” ร่างเล็กๆวิ่งตามเสียงไปหลบหลังผ้าคลุมของบิดา
    “สายัณห์สวัสดิ์ ธรันดูอิลแห่งเมิร์ควูด” กษัตริย์เอล์ฟพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงทักทาย หันหลังกลับเตรียมออกเดิน แต่เสียงของท่านหญิงรั้งเขาไว้เสียก่อน
    “เจ้าจะเป็นคนสำคัญของพวกเราในอนาคต เลโกลัส"
    เด็กน้อยเอียงคอสงสัย
    อนาคตงั้นหรือ?
    กษัตริย์เอล์ฟจ้องกาลาเดรียลไม่วางตา ตอนนั้นเองที่เสียงของนางแล่นเข้ามา
    สิ่งที่เจ้ากลัวจะเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง ดังนั้นจงอย่าให้เวลาที่เหลือผ่านไปอย่างสูญเปล่าล่ะ
    “ท่านพ่อ นั่นใครหรือ"
    “ท่านหญิงกาลาเดรียล ยายของอาร์เวนไงล่ะ” กษัตริย์เอล์ฟตอบโดยไม่หันไปมองเจ้าตัวน้อยที่วิ่งตามมา
    “ที่ท่านหญิงพูดหมายความว่ายังไงหรือ ท่านพ่อ"
    ตาสีฟ้าซีดมีแววเจ็บปวดอยู่วูบหนึ่ง ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วจนเลโกลัสไม่ทันสังเกต
    “ข้าไม่รู้"
    แม้จะรู้ แต่ก็ไม่อาจยอมรับได้ ตอนนี้สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการสักวันจะต้องสูญเสียเลโกลัสไป เขาไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งที่ท่านหญิงได้บอกไว้ล่วงหน้าจะหมายความว่าเลโกลัสจะต้องตาย หรืออาจต้องไปในที่ๆไม่อยู่ในสายตาเขาอีก แต่ไม่ว่าทางไหนต่างเจ็บปวดสำหรับเขา
    มือเรียวลูบเรือนผมสีทองเบาๆ ตาสีเทาซีดมองตอบดวงตากลมโตที่เหลือบมองอย่างสงสัย
    “ท่านพ���อเป็นอะไรรึเปล่า?"
    “ไม่มีอะไรหรอก ไปเถอะ อาร์เวนมาโน่นแล้ว เข้าไปทักทายสิ"
    นับเป็นเรื่องแปลกตาสำหรับกษัตริย์เอล์ฟที่เห็นเจ้าชายน้อยกับเด็กคนอื่นๆ เมิร์ควูดไม่ค่อยมีเอล์ฟเด็กมากนัก อีกทั้งเลโกลัสก็เอาแต่หมกตัวอ่านหนังสือในห้องทำงาน ทำให้เอล์ฟตัวน้อยไม่ได้ออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น เลโกลัสทักทายอาร์เวนและพี่ชายฝาแฝดอย่างประหม่า ก่อนที่พี่น้องฝาแฝดจะพากันลากเจ้าชายเอล์ฟไปเดินเล่นรอบริเวนเดลล์
    “….."
    เอลรอนด์ยืนอดขำไม่ได้กับท่าทางที่นิ่งงันไปของสหาย ธรันดูอิลเพิ่งไปตามตัวเลโกลัสกลับมา แต่กลับถูกลูกชายตัวแสบของเขาลากตัวออกไปเดินเล่นอีกครั้ง
    “นี่ กำลังจะไปไหนเหรอ"
    เจ้าชายตัวน้อยเอ่ยถามขณะถูกสองพี่น้องแฝดลากออกไปยังช่องทางระหว่างซอกหินแคบเล็กที่ทั้งดูชื้นแฉะและไม่ปลอดภัย
    “ตรงนี้มีทางออกไปข้างนอกริเวนเดลล่ะ"
    “เจ้าไม่เคยออกไปข้างนอกใช่รึเปล่า วันนี้พวกข้าจะพาออกไปเอง"
    เอลลาดานแสดงสีหน้าภูมิอกภูมิใจอย่างเก็บไม่มิด เด็กหนุ่มและแฝดพบช่องทางนี้เข้าโดยบังเอิญและมักจะหนีออกไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง
    “แต่..ท่านพ่อ..."
    “ไม่เป็นไรหรอกน่า พวกข้าก็อยู่กับเจ้านี่ไง"
    “แต่.."
    “โอ๊ย ไม่เอาแล้ว ไม่ฟัง ไม่ฟัง ไปกันเถอะ เอโรเฮียร์"
    สองแฝดพากันออกเดินอีกครั้งโดยลากแขนเลโกลัสไปด้วย เด็กน้อยเหลือบมองเส้นทางโดยรอบอย่างหวาดระแวง ดวงตาสีฟ้าใสไหววูบไปด้วยความกลัว เขาไม่เคยออกห่างจากผู้เป็นบิดาโดยไม่มีผู้ติดตาม ถึงแม้การได้ออกไปเที่ยวเล่นจะเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ร่างเล็กๆกลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา
    ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรทางก็ยิ่งแคบและมืดลงจนแทบจะมองไม่เห็นรอบข้าง มือเล็กๆของเลโกลัสเกาะชายเสื้อของเอโรเฮียร์แน่น เด็กหนุ่มตบบ่าเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
    “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ถึงเอลลาดานจะดูพึ่งพาไม่ได้แต่ก็คงไม่ปล่อยให้เจ้ามีอันตรายหรอก..โอ๊ย.."
    เอโรเฮียร์ร้องประท้วงเมื่อกำปั้นของคู่แฝดฟาดลงมากลางศีรษะ ทั้งคู่ยังคงทะเลาะกันไปตลอดทาง จนกระทั่งเริ่มมองเห็นแสงอาทิตย์ริบหรี่ที่ปลายทาง
    สายลมอ่อนๆปะทะเข้ากับใบหน้าทันทีที่ร่างเล็กๆปีนขึ้นจากโพรงสำเร็จ เจ้าชายเอล์ฟค่อยๆกวาดตามองรอบข้าง ที่ๆพวกเขายืนอยู่เป็นทุ่งโล่งกว้าง มีหมู่หินขนาดใหญ่อยู่ปะปราย แสงแดดอบอุ่นที่ไม่เคยได้สัมผัสสาดส่องไปทั่ว ช่างดูอบอุ่นอ่อนโยนแตกต่างจากเมิร์ควูดในตอนนี้โดยสิ้นเชิง
    “เป็นไงล่ะ สวยล่ะสิ"
    เอลลาดานกอดอกยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเห็นเลโกลัสแสดงสีหน้าสนอกสนใจ เอโรเฮียร์ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเอือมระอาให้กับการกระทำอย่างเด็กน้อยของพี่ชาย ดวงตาสีเทาคอยจับจ้องร่างเล็กๆของเจ้าชายเอล์ฟที่เดินสำรวจไปรอบๆ ขณะที่เขาเองเอนหลังอิงอยู่กับก้อนหินใหญ่ ส่วนเอลลาดานคอยเดินตามเลโกลัสอยู่ห่างๆ เอล์ฟหนุ่มทั้งสองรู้ตัวว่าการแอบพาเลโกลัสออกมาเที่ยวเล่นนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้นจะให้เกิดอันตรายกับเด็กคนนี้ไม่ได้     พลันพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ใบหูเรียวยาวกระตุกวูบเมื่อได้ยินเสียงนั้นชัดขึ้น
    “...เอลลาดาน ได้ยินรึเปล่า"
     “อืม..รีบไปหาที่หลบเถอะ"
     แฝดผู้พี่คว้าตัวเจ้าชายเอล์ฟขึ้นอุ้มก่อนจะค่อยๆวิ่งอย่างแผ่วเบาไปหลบหลังโพลงเล็กๆหลังหมู่หินโดยมีเอโรเฮียร์วิ่งตามหลังมา ฝาแฝดสำรวจอาวุธที่นำติดตัวมาด้วย เกือบทั้งหมดเป็นอาวุธขนาดเล็ก นอกจากนี้ก็มีคันธนูของเอลลาดาน มีดสั้นเล็กเรียวถูกชักออกมา เอลลาดานย่นหน้าอย่างขัดใจ
     “ทั้งหมดเท่าไหร่"
     “น่าจะสักยี่สิบล่ะมั้ง"
     “น่าจะพอเอาตัวรอดได้ล่ะมั้ง..."
    “เกิดอะไรขึ้น?"
    เลโกลัสที่นั่งเงียบงุนงงอยู่นานถามขึ้น แววตาเริ่มฉายแววของความกังวล ดวงตาสีเทาสบกัน ชั่วขณะหนึ่งพวกเขาลืมไปว่าเลโกลัสอยู่ด้วย
    “ออร์คน่ะ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวเอลลาดานจะพาเจ้ากลับไป"
    “เจ้าต่างหากที่จะพาเลโกลัสไป ข้าจะต้านไว้ให้เอง"
    “เจ้าไม่ถนัดใช้มีดสั้น ขืนให้ต้านไว้ก็ตายกันหมดพอดี"
    แฝดยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ แต่เสียงก็แผ่วลงเมื่อเอลลาดานสัมผัสได้ถึงแรงดึงที่ชายเสื้อ เลโกลัสกระตุกชายเสื้อเขาอย่างร้อนรน น้ำเสียงของเจ้าชายน้อยเหมือนเด็กที่ใกล้จะร้องไห้เต็มที
    “ใกล้..แล้ว"
    ดวงตาสีเทาสบกันอีกครั้ง ก่อนที่เอลลาดานจะคว้ามือเลโกลัสพร้อมออกวิ่งไปอย่างรวดเร็วแต่เงียบเชียบ พวกเขาออกจากริเวนเดลมาไกลเกินกว่าที่คิดไว้
     ...ไม่ทันแล้ว
    เสียงคำรามหวีดหวิวดังขึ้นก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไปถึงทางเข้าโพรงซึ่งเป็นเส้นทางสู่ริเวนเดล วาร์กตัวใหญ่หอนคำรามอย่างลำพองใจ วันนี้พวกมันจะได้ลิ้มลองเหยื่อรสโอชะ วาร์กวิ่งตรงเข้ามาหลังถูกดาบเล่มหนาของออร์คฟาดเข้า แต่ก่อนที่จะวิ่งถึงตัวเอลลาดานวาร์กตัวจ่าฝูงก็ล้มกลิ้งและสิ้นลมลงซะก่อน ที่คอปรากฏมีดสั้นเล่มคมสีเงินของเอล์ฟแฝดน้อง
    “รีบไปสิ! พวกที่เหลือตามมาแล้ว"     “เอลลาดาน!"
    เลโกลัสหวีดร้องเมื่อออร์คเตะซากวาร์กที่ทับตัวมันออกและวิ่งพุ่งเข้ามาพร้อมดาบในมือ เอลลาดานผลักให้เลโกลัสไปอยู่ข้างหลัง ก่อนจะคว้ามีดสั้นขึ้นมา
    แต่ก่อนที่ดาบเล่มหนาในมืออมนุษย์จะกระทบกับมีดสั้น กลับมีดาบสีเงินเล่มวาววับเข้ามาขวางไว้ซะก่อน ดวงตาสีเทาค่อยๆไล่สายตามองเจ้าของดาบ ก่อนที่สีสันบนใบหน้าจะหายไปจนหมดสิ้น
    “ท่านธรันดูอิล.."
    ดวงตาสีฟ้าซีดจับจ้องอมนุษย์น่าเกลียดตรงหน้าอย่างชิงชัง ก่อนจะคว้าดาบอีกเล่มตวัดตัดคอออร์คจนขาดออกจากตัว ดวงตาเย็นชาตวัดกลับมาที่แฝดผู้พี่ ผู้ซึ่งตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว
    “หลังจากจบเรื่องตรงนี้ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะมีคำอธิบายที่ดี เพราะพ่อเจ้าต้องไม่ชอบใจแน่"
-------------------------------------------------------------------------------------------
3 notes · View notes